Cover Letter คือจดหมายสมัครงานภาษาอังกฤษที่ถูกใช้สำหรับยื่นเป็นเอกสารสมัครงาน ซึ่งได้รับความนิยมใช้งานอย่างแพร่หลายทั้งประเทศอเมริกา แคนนาดา รวมทั้งในไทยด้วย ซึ่ง Cover Letter โดยทั่วไปจะมีความยาวประมาณ 1 หน้า A4 ในบทความนี้เราจะพูดถึงเทคนิคในการเขียน Cover Letter ที่คุณควรรู้ รวมทั้งยกตัวอย่างการเขียน Cover Letter ภาษาอังกฤษที่ดีไว้ในนี้ด้วย
แต่หากใครที่กำลังจะเขียนเป็นภาษาไทย ก็สามารถนำหลักการเหล่านี้ไปปรับใช้ได้ เชื่อว่าจดหมายสมัครงานของคุณปังแน่นอน และนอกจากจะเตรียมเขียนจดหมายสมัครงานแล้ว อย่าลืมเตรีนมตัวตอบคำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษที่เราได้แชร์ในบทความก่อนหน้านี้ด้วยล่ะ
เทคนิคการเขียน Cover Letter
เขียน cover letter ให้เหมาะสมกับตำแหน่งงาน
เทคนิคแรกที่หลาย ๆ คนมักมองข้ามก็คือ การเขียน Cover Letter ให้แตกต่างและเหมาะสมสำหรับแต่ละตำแหน่งงานและบริษัทที่คุณสมัครงานจริง ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้งานที่มากขึ้น เนื่องจากคนอ่านจะเห็นถึงความใส่ใจและตั้งใจจริงสำหรับการสมัครงานในตำแหน่งงานนั้นจริง ๆ หลายคนมักจะทำ Cover Letter ขึ้นมาอันเดียวสำหรับใช้สมัครหลาย ๆ งานพร้อม ๆ กัน ทำให้พลาดโอกาสในการถูกจ้างงานไปอย่างน่าเสียดาย เนื่องจากเนื้อหาที่ไม่ตรงตามความต้องการสำหรับตำแหน่งนั้น ๆ ที่มากพอ
เลือกเขียนและออกแบบ Cover Letter ให้ตรงตามที่บริษัทต้องการ
ก่อนจะสร้าง Cover Letter คุณอาจจะศึกษาข้อมูลบริษัทในเบื้องต้นก่อนว่ามีวัฒนธรรมองค์กรเป็นอย่างไร ทางการมากน้อยแค่ไหน เพื่อจัดเตรียม Cover Letter ให้ถูกใจบริษัทได้มากที่สุด ที่สำคัญก็คือยังแสดงให้เห็นถึงความใส่ในในการค้นหาข้อมูลและทำความรู้จักกับบริษัทในเบื้องต้นก่อนด้วย
จัดรูปแบบให้อ่านง่าย
จดหมายสมัครงานภาษาอังกฤษควรเขียนออกมาให้น่าอ่านด้วยการจัดเรียงโครงสร้างให้อ่านได้ง่าย ไม่เขียน Paragraph เดียวติดกันยาวๆ และใช้ฟอนต์ที่เป็นทางการ ไม่ควรเขียนให้ยาวเกินไปเพราะฝ่าย HR อาจไม่มีเวลาอ่านขนาดนั้น
ความยาวและฟอนต์ที่เหมาะสมคือ Times New Roman ขนาด 11-12 pt ยาว 1 หน้า A4
ใส่แต่เนื้อหาที่สำคัญและจำเป็นเท่านั้น
ไม่ควรใส่เนื้อหามากไปโดยไม่จำเป็นกับตำแหน่งงานที่คุณสมัคร และให้เลือกใส่แค่ข้อมูลที่จำเป็นและสำคัญจริง ๆ เท่านั้น การใส่ข้อมูลที่มากเกินไปจะทำให้ไม่น่าอ่านและยังไม่เฉพาะเจาะจงสำหรับตำแหน่งงานที่คุณสมัครมากพอด้วย
เขียนเนื้อหาให้น่าอ่านและถูกต้องตามหลักไวยากรณ์
การเขียน Cover Letter ที่ดีควรมีความเป็นทางการ น่าอ่าน มีความน่าเชื่อถือ และถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ เพราะจะช่วยให้คุณดูมีความเชี่ยวชาญมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญที่สุดเลยก็คือคุณควรที่จะอ่านหลาย ๆ รอบก่อนตัดสินใจส่ง เพื่อให้แน่ใจได้ว่าไม่มีคำที่สะกดผิดหรือเขียนผิด
ตัวอย่างการเขียน Cover Letter ภาษาอังกฤษ
Pantipa Kaninthorn
087-553-1212
ABC12@gmail.com
February 23, 2023
Dear Hiring Manager,
I am writing to express my strong interest in the English to Korean translator and interpreter position at Up Translation. As an English major graduate with first-class honors from ABC University and with two years of experience in English-Korean translation at Think Translation, I believe I have the qualifications and skills necessary to contribute to your team.
Combining my passion for the Korean language and culture with my experience in translation, localization, and interpretation, I offer a strong candidacy for the position. Among my accomplishments, I have translated Korean series and movie subtitles and provided interpretation services for clients visiting companies in Thailand. Throughout my career, I have worked across a range of industries, including automobiles, cosmetics, electronic brands, and e-commerce, with clients such as 26 Agency, LL Translation, and Korean TT.
I prioritize punctuality and ensure that all work is delivered on time, accompanied by a thorough review process to ensure that it meets all client requirements and standards. Proficient in various translation software, I am also adept at quickly learning new technologies.
Thank you for considering my application. I am eager to contribute my skills and experience to your team and look forward to hearing back from you.
Sincerely,
Pantipa Kaninthorn
ข้อมูลใน Cover Letter จะประกอบไปด้วยข้อมูลส่วนตัว วันที่เขียน และเนื้อหาเกี่ยวกับการศึกษา ประสบการณ์การทำงาน ทักษะและความสามารถที่คุณมี และตบท้ายด้วยข้อดีที่ทำไมผู้พิจารณา Cover Letter ถึงควรจะจ้างคุณทำงาน พร้อมตบท้ายด้วยคำขอบคุณ และคำจบท้ายจดหมาย ในปัจจุบันคุณสามารถส่ง Cover Letter ได้แบบออนไลน์ควบคู่ไปกับ Resume หรือเอกสารที่มีข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษาและประสบการณ์ทำงานของคุณเพิ่มเติม รวมทั้ง Portfolio ด้วย
ทั้งนี้ การทำงานจะประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นหากคุณมีการพัฒนาตัวเองทั้งด้าน Hard Skill และ Soft Skill อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลายครั้งผู้สัมภาษณ์จะทดสอบในช่วงการสัมภาษณ์งานเช่นกัน อาจต้องเตรียมตัวให้ดีด้วย นอกจากนี้ ใครที่ไม่ได้มีแผนย้ายงานเร็ว ๆ นี้ การพัฒนาตัวเองจะช่วยสนับสนุนหากคุณกำลังอยากจะขอขึ้นเงินเดือน ซึ่งเราได้แชร์เทคนิคการขอขึ้นเงินเดือนมาแล้ว ลองไปติดตามกันดูนะ